Last updated: 17 Jan 2020 | 7680 Views |
สำหรับกระเป๋าแบรนด์เนม(Brandname) ที่ทั่วไปอย่างน้อยต้องมีราคาหลักพันอัพ โดยเฉพาะพวกระดับแบรนด์ไฮเอนด์ (Hi-End) อย่าง กระเป๋าหลุยส์ กระเป๋าชาแนล กระเป๋าแอร์เมส ที่มักมีราคาโดยทั่วไปเกินหลักหมื่น หรืออาจถึงขั้นหลักแสนหรือหลักล้าน แต่ก็ยังมีคนยอมเสียเงินซื้อ ซึ่งก็มักจะมีคนใกล้ตัวไม่ว่าจะเป็นคุณผู้หญิงคุณผู้ชายถามมาตลอดว่า ทำไมถึงกล้าซื้อกันมาใช้ คราวนี้เราจึงขอมาแจกแจงข้อสงสัยนั้นให้กระจ่างกันไปเป็นข้อๆ กันไปเลย
แบรนด์เนมแพง ซื้อราคาเท่ารถครึ่งคัน จริงเหรอ!?
Fact > กระเป๋าแบรนด์เนมนั้นนับเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสามารถขายได้เปลี่ยนเป็นเงินได้ เหมือนคุณเช่ามาใช้
ก่อนอื่นจำเป็นต้องเปลี่ยน Mindset กันซะก่อน กระเป๋าแบรนด์เนมราคาหลักแสนหลักล้านนั้นมีอยู่จริง อย่าง Chanel Boy ของแบรนด์ Chanel(ชาแนล) ที่ตัวเริ่มต้นราคาอยู่ที่หลักแสนต้นๆ หรือพวก Limited ของหลายแบรนด์ที่ราคาเกินหลักล้านถึงเป็นสิบล้าน ไม่ว่าจะเป็น Hermès (แอร์เมส) หรือ Louis Vuitton (หลุยส์วิคตอง) และแบรนด์เนมอื่นๆ ซึ่งประดับไปด้วยเพชรและทอง ฯลฯ
แต่เรื่องราคานั้นไม่ใช่มูลค่าแท้จริงที่คุณต้องเสีย เช่น หากคุณซื้อ Chanel Boy มา 167,500 บาท ใช้ว่าคุณจะเสียเงินจำนวน 167,500 บาทจริง ถามว่าทำไม เพราะกระเป๋าแบรนด์เนมก็เหมือนรถยนตร์จริงๆ ตรงที่ กระเป๋าแบรนด์เนมนั้นนับเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสามารถขายได้ เพราะมีตลาดกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองมาคอยรองรับนั้นเอง
หากคุณซื้อ Chanel Boy 167,500 บาท คุณก็สามารถขายออกได้ในราคาที่ใกล้เคียงกัน ยิ่งหากคุณเป็นพวกใช้กระเป๋าแบบถนอมสภาพกระเป๋าดี หรือเหมือนใหม่แค่ไหนก็ยังสามารถขายออกได้ในราคาดี หรือบางครั้งหากเป็นที่ต้องการของตลาดยังสามารถขายเก็งกำไรได้อีกด้วย
อีกทั้งตลาดกระเป๋าแบรนด์เนมมือสองยังขยับขยายเติบโตอย่างต่อเนื่อง ร้านแบรนด์เนมมือสองผุดขึ้นมาเหมือนดอกเห็ด ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีที่ขายกระเป๋าอย่างแน่นอน แต่อาจต้องกรองร้านให้ดีสักหน่อยเท่านั้น
พูดง่ายๆ ว่าเปรียบเหมือนคุณเช่ากระเป๋าแบรนด์เนมมาใช้ พอคุณใช้จนหน่ำใจจะเก็บไว้หรือปล่อยออก คุณก็จะเสียเงินจริงๆ แค่ค่าส่วนต่างระหว่างราคาซื้อกับราคาขายนั้นเอง
นอกจากนี้กระเป๋าแบรนด์เนมยังมีไลน์สินค้าหลากหลายระดับและไม่แพงเกินฝันอย่างที่หลายคนคิด มีตั้งแต่หลักพันต้นๆ มาให้สาวกแบรนด์เนมมือใหม่ได้ลิ้มลองความเป็นแบรนด์เนม หรือหลักหมื่นที่คนส่วนมากเลือกใช้กัน
ราคาเป็นหมื่นต่างจากกระเป๋าทั่วไปตรงไหนใส่ของได้เหมือนกัน
Fact > แตกต่างทั้งวัสดุ ความทนทาน และความสวยงาม
ก่อนอื่นอย่างที่ได้เขียนไปข้างต้นว่ากระเป๋าแบรนด์เนมนั้นนับเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสามารถขายได้ ทำให้สามารถปล่อยต่อได้ในตลาดกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง นับเป็นสิ่งที่กระเป๋าทั่วไปทำได้ยากและยากที่จะทำตาม
อีกส่วนก็คงจะเป็นวัสดุในการจัดทำ ความทนทาน งานฝีมือในการเย็บ ซึ่งสำหรับแบรนด์เนมราคาเฉียดแสนนั้นโดยมากมักใช้คนในการเย็บ ไม่ได้ใช้เครื่องจักรโรงงาน ทำให้มีความประณีตในการจัดทำมากกว่า เช่นกระเป๋าของ Hermès(แอร์เมส) ที่ใช้คนเพียงหนึ่งคนทำกระเป๋าทุกขั้นตอนการผลิตตั้งแต่เลือกวัตถุยันจับเย็บทั้งใบ หรือการคัดเลือกวัสดุเครื่องหนังต่างๆ
เช่นหนังจระเข้ ที่กว่าจะได้กระเป๋าหนังจระเข้แต่ละใบจำเป็นต้องเลี้ยงจระเข้ขึ้นมาหนึ่งตัวในบ่อพิเศษหินอ่อน หรือบุนวม เพื่อกันไม่ให้หนังจระเข้เหล่านี้มีร่องรอยขีดข่วนระหว่างการเจริญเติบโตซึ่งกินระยะเวลาค่อนข้างนาน
หรือจะเป็นกรรมวิธีการผลิตในการตัดเย็บ อย่างแบรนด์ Louis Vuitton (หลุยส์วิคตอง) ที่จะมีจำนวนฝีเข็มชัดเจนทุกใบทุกลายอย่างไม่มีผิดเพี้ยน หรือระยะห่างระหว่างลายโมโนแกรมที่มีระยะชัดเจนที่ถูกคนวนมาอย่างดีแล้ว
สุดท้ายคือความทนทานกระเป๋าธรรมดาแบรนด์ทั่วไปอาจใช้สักปีสองปีก็โทรมขาด ด้ายหลุด ในขณะที่กระเป๋าแบรนด์เนมจะมีความคงทนที่มากกว่าทั้งจากวัสดุคุณภาพ หรือฝีมือการตัดเย็บที่ใส่ใจในรายละเอียด ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับชีวิตประจำวันในการใช้กระเป๋าด้วยว่าถนอมแค่ไหน
ทำไมต้องเสียตังใช้ของแบรนด์เนมแท้
Fact > สะท้อนรสนิยม เพิ่มสถานะทางสังคม
นอกจากสามารถเก็บไว้เป็นทรัพย์สิน สามารถเปลี่ยนกระเป๋าเป็นเงินสดได้แล้วพอตัดทฤษฎีสวยหรูออกไปให้หมด ก็สามารถตอบได้แบบกำปั้นทุบดินเลยว่าเพื่อกิเลส ฐานะทางสังคม และความชอบ ซึ่งเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจนก็เหมือนการเลือกซื้อรถสักคัน การจะซื้อรถสักคันแน่นอนว่ารถทุกคันขับได้ ส่งคุณจากจุด A ไปยังจุด B ได้ หากคิดแค่นั้นทุกคนคงจบอยู่ที่ Eco Car สักคัน แต่ก็ยังมีคนเลือกใช้รถอย่าง BMW , BEN , AUDI ซึ่งแพงกว่ารถ Eco Car หลายเท่า
เพราะการจะซื้อรถสักคันไม่ได้คำนึงถึงแค่การเอาไว้ใช้งาน ยังคำนึงถึงความสวยงาม หรูหรา สะดวกสบาย ใช้แล้วคนอื่นต้องหันมามอง ซึ่งในมุมเดียวกันก็เหมือนกับกระเป๋าแบรนด์เนม ใช้ กระเป๋าทุกใบใส่ของได้ แต่จะมีกี่ใบที่ทำให้คนที่เดินสวนกันเหลี่ยวหลังกลับมามองได้นอกจากกระเป๋าแบรนด์เนม อย่าง Chanel หรือ Hermès สักใบ
นอกจากนี้เรื่อง “แบรนด์” ของสินค้าก็ยังเป็นอีกส่วนหนึ่งนอกจากสินค้าที่ทำให้ผู้ใช้ทั้งหลายตัดสินใจเลือกใช้ เพราะภาพลักษณ์ของแบรนด์สินค้า เช่น คนที่เลือกใช้ Hermès(แอร์เมส) จะมีภาพลักษณ์ของคนหรูหรามีระดับไฮคลาส หรือ คนที่ใช้ Balanciaga(บาลองเซียก้า) เป็นคนที่ไม่ยึดติดกับภาพลักษณ์เดิมๆ ซึ่งการเลือกใช้แบรนด์ต่างๆ ก็เหมือนเป็นการสะท้อนรสนิยมตัวตนของตัวเองออกมาให้คนอื่นรับรู้นั้นเอง
ของดีแต่ถูกไม่มีในโลกของกระเป๋าแบรนด์เนม
Fact > ของดีแต่ถูกมีในโลกของแบรนด์เนมมือสอง
โชคเป็นของคุณเมื่อปัจจุบัน ธุรกิจแบรนด์เนมมือสองนั้นโตขึ้นทุกปี ร้านเล็กร้านน้อยผุดออกมาเป็นดอกเห็ด การสั่งซื้อทางออนไลน์อย่าง E-commerce(อีคอมเมิร์ซ) ก็มีมากขึ้นทั้ง IG Facebook หรืออย่าง Shopee ที่เริ่มมีกระเป๋าแบรนด์เนมเข้ามาขาย แถม โปรผ่อนเป็น 10 เดือนก็มีให้เลือกหลายธนาคาร อีกทั้งกระเป๋าแบรนด์เนมมือสอง สภาพไม่ต่างกับแบรนด์เนมมือหนึ่ง แต่ราคาลดลงมาตามสภาพนั้นมีเยอะแยะ
แต่ถ้าอยากจะจับของถูก อาจจะต้องมีประสบการณ์นิดนึง เพราะในสภาพที่ตลาดมือสองบูม ย่อมมีร้านที่ย้อมแมวเอาของปลอมมาขายหรือหลุดออกมา หากคิดจะจับของมือสองที่ราคาไม่แรง และไม่มีประสบการณ์ดูของแท้ของปลอม ควรเลือกร้านที่ไว้ใจได้ หรือมีรับประกันสินค้าแท้ ราคาอาจจะมากขึ้นมาได้รับรองได้ของดีถูกใจกว่าวัดดวงจากการซื้อออนไลน์แน่นอน
โดยสรุปก็คือกระเป๋าแบรนด์เนมนั้นแพงก็จริงแต่เพราะเป็นสินค้ามีมูลค่า ทำให้แบรนด์เนมนั้นสามารถขายได้เหมือนทอง เป็นทรัพย์สินที่สามารถลงทุนได้ ไม่ใช้ทรัพย์สินที่ตายหรือเสื่อมมูลค่า นอกจากนี้กระเป๋าแบรนด์เนมยังมีทางเลือกอีกมากมายในการซื้อ อย่างร้านขายแบรนด์เนมมือสอง ที่อีกเป็นอีกทางเลือกที่นิยมกันมาก เพราะคำว่าแบรนด์เนมมือสอง นั้นเมื่อเราซื้อมาก็ยังเป็นแบรนด์เนมมือสองวันยังค่ำ ไม่มีมือสามมือสี่ ทำให้บางครั้งซื้อมาใช้แล้วยังขายคืนได้อย่างมีกำไรอีกด้วย
13 Feb 2021
16 Jan 2021